บทความน่ารู้
10/05/2022
ตั้งเป้าเก็บเงินซื้อบ้าน ทำอย่างไรให้สำเร็จ
ตั้งเป้าเก็บเงินซื้อบ้าน ทำอย่างไรให้สำเร็จ
“บ้าน” นับว่าเป็นสิ่งทีทุกคนใฝ่ฝัน มันเป็นสินทรัพย์ที่ต้องซื้อสักครั้งในชีวิต ไม่ว่าจะมีบ้านอยู่แล้ว หรือ มรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ อย่างไรก็ตาม เราก็ควรซื้อบ้านเป็นของตัวเอง เพื่อแสดงความสำเร็จในชีวิต เป็นหน้าเป็นตาของเรา แต่ทว่า การซื้อบ้านหรือซื้อคอนโดนั้น ถือเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงมาก จึงจำเป็นต้องมีการวางแผนและตั้งเป้าหมายในการออมอย่างชัดเจน เป็นระบบระเบียบ และสร้างวินัยการใช้เงินให้กับตัวเองด้วย มิเช่นนั้นแล้ว โอกาสในการซื้อบ้านให้สำเร็จได้นั้นก็จะน้อยลงทุกวันๆ เสียเวลาไปเรื่อยๆ โดยแนวทางการตั้งเป้านั้นมีดังนี้
1. ระบุเป้าหมายราคาบ้านเป็นตัวเลขชัดเจน
โดยปกติทั่วไปเรามักจะคิดเพียงแค่ว่า จะเก็บเงินซื้อบ้านซักหลัก แต่เราไม่เคยที่จะกำหนดเวลาให้ชัดเจนว่า “เก็บเงินกี่ปี” ไม่เคยกำหนดจำนวนเงินที่จะต้องซื้อว่า “ราคาเท่าไหร่” เรามักจะเก็บเงินไปเรื่อยๆไปวันๆ ไม่ได้วางแผน หรือมีเป้าหมายที่ชัดเจน ดังนั้นเราควรวางแผนให้ชัดเจน อย่างเช่น เราตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะซื้อบ้าน ในราคา 2 ล้านบาท เราคำนวณรายรับรายจ่ายของเราต่อเดือนแล้ว เหลือเดือนละ 1 หมื่น เราก็ต้องเก็บเงินให้ได้เดือนละหมื่นอย่างชัดเจน เอาไปฝากไว้ธนาคารแบบกินดอกเบี้ย เป็นจำนวน 200 เดือน หรือราวๆ 6 ปี 6 เดือน นั่นเอง เราภายใน 6 ปีนี้เราต้องซื้อบ้านให้ได้ ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน
2. กำหนดเส้นตายในการบรรลุเป้า
เมื่อเรามีเป้าหมายเป็นราคาบ้านที่จับต้องได้แล้ว ต่อไปคือกำหนดระยะเวลาสำหรับการทำเป้าหมายนั้นให้เป็นจริง ดังข้อข้างต้น เราคำนวณไว้แล้วว่าจะภายใน 6 ปี เราจะมีเงิน 2 ล้านบาท
แล้วกำหนดเส้นตายเลยว่า ภายใน 6 ปีเราต้องมีเงิน 2 ล้านให้ได้ หากเราไม่กำหนดระยะเวลาเส้นตายไว้ เราก็จะผัดผ่อนไปเรื่อยๆ เสียเวลาไปเรื่อยๆ และขาดวินัยในการเก็บออมที่แท้จริง พอเวลาผ่านไปแล้วหันกลับมา เก็บเงินมาตั้งหลายปีแล้ว ได้มาแค่ไม่กี่แสน ก็จะมีความรู้สึกท้อแท้ และถอดใจ แล้วล้มเลิกความตั้งใจไปในที่สุด
3. เพิ่มรายได้ไม่เพิ่มรายจ่าย
เมื่อเรากำหนดเส้นตายในการบรรลุเป้าหมายแล้ว สิ่งสำคัญอีกเรื่องนึงก็คือ การวางแผนจัดการ รายรับรายจ่ายของเราให้มั่นคง ตัวอย่างข้างต้น หากเราคำนวณรายรับรายจ่ายเราแล้วเหลือเดือนละ 1 หมื่น เราต้องคิดวางแผนล่วงหน้าด้วยว่า หากวันนึงเราต้องมีรายจ่ายเพิ่มเติม น้ำมันแพงขึ้น ค่าครองชีพเพิ่มขึ้น หรืออื่นๆ ถ้ามีรายจ่ายเพิ่มมากขึ้น สิ่งที่เราตั้งเป้าไว้อาจจะไม่เป็นไปตามเป้ากำหนดเส้นตาย ดังนั้น ทางออกคือ เราควรที่จะต้องหารายได้ให้เพิ่มมากขึ้นเพื่อรองรับกับรายจ่ายที่อาจจะเพิ่มขึ้นในอนาคต อาจจะหางานเสริมเพิ่มเติม ขายของออนไลน์ หาช่องทางเพิ่มรายได้ หากรายได้เพิ่มมากขึ้น เป้าของเราก็จะลดลงมา จาก 6 ปี ก็เหลือแค่ 3 ปี แค่3ปีเองความฝันเราก็จะเป็นจริงแล้ว
แต่ในปัจจุบันอาจจะไม่ต้องเข้มงวดเรื่องการเก็บเงินก้อนใหญ่สักเท่าไร เพราะเราสามารถเลือกใช้บริการของสินเชื่อได้ ซึ่งทำให้บรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารมักจะอนุมัติสินเชื่อให้เราร้อยละ 80 ของรายได้ และดังข้อ 1 สินเชื่อจะดูวินัยการเดินชัญชีการเก็บออมเงินที่เราฝากไว้กับธนาคารด้วย หากเก็บเงินไปได้ 2 ปี มีเงิน 1 ล้าน แต่บ้านราคา 2 ล้าน เราก็ใช้เงิน 5 แสน เป็นเงินดาวน์ เพื่อให้สินเชื่ออนุมัติผ่านง่ายขึ้น อีก 5 แสนเก็บไว้เป็นค่าตกแต่งเฟอนิเจอร์ จิปาถะอื่นๆ แล้วแต่เรา หาเรามีวินัยในการออมแล้ว บ้านในฝันก็อยู่แค่เอื้อมโดยใช้เวลาแค่ไม่นาน
แต่ถ้าไม่อยากเก็บเงินออมเป็นระยะเวลานานนับปีแล้ว Property Mall มีโปรโมชั่นดีๆ ไม่ต้องมีเงินออมก็ซื้อได้ ใช้เงินเพียง 0 บาท ไม่ต้องมีเงินจอง ไม่ต้องวางดาวน์ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายวันโอน พร้อมของแถมแบบจุกๆ เอาใจผู้ซื้อและนักลงทุน ด้วยสินค้าอสังหาฯ ที่มีให้เลือกเยอะเต็มไปหมด บนแพลตฟอร์มศูนย์รวมอสังหาฯ Property Mall
บทความที่เกี่ยวข้อง